Tuesday, December 10, 2013


[LN] Absolute Duo - ศึกศาสตรา วิญญาณแฝด Chapter 1 (3)

Part 3

“กิจกรรมประเพณี?”
“ไม่มีอะไรแบบนั้นเขียนอยู่ในแผ่นพับเลยนะ....”
ดูจากตารางเวลาที่ติดอยู่บนกำแพงแล้ว กิจกรรมที่ควรจะดำเนินหลังจากโอวาทผู้อำนวยการแล้ว ควรจะเป็นการต้อนรับอย่างอบอุ่นของตัวแทนนักเรียน...
[ก่อนที่เราจะเริ่มต้น <<พิธีคัดเลือกนักศึกษา>> กัน มีบางสิ่งที่พวกเธอจะต้องทำ ขอให้พวกเธอสำรวจคนที่นั่งอยู่ข้างๆ กัน คนๆ นั้นจะเป็นคู่ของเธอในกิจกรรมที่พวกเธอต้องเข้าร่วมนี้]
ผมมองไปยังคุณอิมาริ และคุณอิมาริก็มองมายังผม
“งั้น พวกเราจะต้องทำอะไรร่วมกับคู่ของตัวเองล่ะ?”
ผมเอนศีรษะด้วยคำถามที่ผุดขึ้น และผมก็ได้รับคำตอบแทบจะในทันที จากคำพูดของผู้อำนวยการที่แถลงไขออกมา
[จากนี้ พวกเธอจะต้องประลองกับคู่ของตัวเอง]
“อะไรนะ....!?”
เมื่อพวกเราได้รับคำบอกเล่าเกี่ยวกับกิจกรรมนี้ ผม---ไม่สิ ไม่ใช่แค่ผม แต่หหลายๆ คนทั่วทั้งห้องประชุมต่างต้องอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ
[กิจกรรมประเพณี <<พิธีคัดเลือกนักศึกษา>> กำลังจะเริ่มต้นขึ้น จะเป็นการทดสอบคัดเลือกเข้าศึกษาที่วิทยาลัยโคเรียวนี้ ผู้ที่ชนะ จะได้สิทธิในการเข้าเรียนที่โรงเรียน ในขณะที่ผู้แพ้ จะถูกเชิญให้ออกไปในทันทีหลังจากที่เก็บกู้ <<Luciful>> คืนมาแล้ว]
ต่างจากพวกเราที่ยังอยู่อยู่ในอาการตื่นตระหนก ผู้อำนวยการที่เพิ่งจะกล่าวเรื่องน่าหวาดหวั่นออกไป ยังคงมีสีหน้านิ่งเฉย
หลังจากที่เธอได้กล่าวคำพูดนั้นจบลงไป ทั่วทั้งหอประชุมก็ตกอยู่ในความเงียบงัน---
และในที่สุด พวกเขาก็สามารถทำความเข้าใจกับสิ่งที่ได้ยินได้ในที่สุด นักเรียนใหม่เหล่านั้นจึงเข้าสู่ความตื่นตระหนก
(การสอบเข้าระหว่างพิธีเปิดเนี่ยนะ...!?)
คุณอิมาริเองก็เหมือนกับผม ที่ไม่สามารถที่จะปกปิดความช๊อคในเรื่องนี้ได้ เธอบ่นพึมพำกับตัวเองในขณะที่สายตาก็ทอดไปทางผู้อำนวยการด้วยความสงสัย
“นี่มันเป็นเรื่องตลกสินะ...? ถึงจะบอกว่านี่เป็นโรงเรียนฝึกสอนทักษะพิเศษ แต่ก็ไม่เห็นจะต้องให้พวกเราทำแบบนี้กันตั้งแต่วันแรกเลยนี่นา...ล-แล้วก็ หมายความว่ายังไงที่บอกว่าเป็นการสอบเข้าน่ะ!? ไม่ใช่ว่าใครก็ตามที่ <<เข้ากันได้>> ก็สามารถเข้าเรียนได้ไม่ใช่เหรอ!?”
“ฉันเองก็สงสัยเรื่องนั้นเหมือนกัน แล้วฉันเองก็อยากจะรู้คำตอบด้วย แล้วก็กิจกรรมประเพณีแบบนี้ มันเป็นเรื่องที่แปลกมาก ที่ฉันไม่เคยได้ยินเรื่องแบบนี้จากปากของคนที่ไม่ผ่านการคัดเลือกสักคน?”
โทระโยนคำถามนี้ขึ้นไปยังเวทีด้วยท่าทางหยาบคายจนไม่มีใครคิดได้ว่าพวกเขามีความสัมพันธ์กันแบบศิษย์และอาจารย์
แต่คนที่ตอบคำถามนั้น ไม่ใช่ผู้อำนวยการ แต่เป็นพิธีกรที่ชื่อว่า มิคุนิ (สรุปว่ามันเป็นผู้ชายนะครับ ผมเข้าใจผิด)
[ฉันคิดว่าไม่ได้บอกอะไรอย่างว่าไม่มีการสอบเข้านะ ถึงจะเคยบอกว่าพวกเธอมีสิทธิที่จะเข้าเรียนที่โรงเรียนถ้าพวกเธอ <<เข้ากันได้>> ส่วนเหตุผลง่ายๆ ที่ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องการสอบเข้าไม่รั่วไหลออก ก็เพราะพวกเรามีวิธีมากมายที่จะควบคุมข้อมูลพวกนี้]
ด้วยรอยยิ้มเล็กๆ ที่มุมปากของอาจารย์มิคุนิ ผมพอจะเข้าใจได้ว่านั่นเป็นความจริง
ห้องประชุมตกอยู่ในเสียงโหวกเหวกและความโกลาหล
[ถ้าพวกเธอเข้าใจดีแล้ว ดิฉันจะเริ่มอธิบายต่อ]
แต่เด็กหญิงในชุดดำนั้นก็มิได้สนใจเรื่องนั้นมากนัก เธอได้เริ่มอธิบายกฎอย่างไม่มีรีรอ
[พวกเธอสามารถที่จะทำอะไรก็ได้ในระหว่างการประลอง – หรือแปลได้ว่าพวกเธอมีอิสระที่จะเลือกใช้อาวุธได้ทุกอย่าง แน่นอนว่าอาวุธนั้นรวมไปถึง <<เปลวเพลิง>> ด้วย ผลการตัดสินจะปรากฏขึ้นเมื่อมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยอมแพ้ หรือถูกตัดสินว่าไม่อาจทำการต่อสู้ต่อไปได้แล้ว และหากผลการตัดสินยังไม่ปรากฏออกมาภายในระยะเวลาสิบนาที ทั้งคู่จะถูกปรับตกในทันที----]

“ด-เดี๋ยวก่อนค่ะ!”
[มีอะไรหรือคะ?]
แม้ว่าเธอจะถูกขัดจังหวะกลางคัน แต่ผู้อำนวยการก็ไม่ได้เปลี่ยนสีหน้า และมองตรงลงไปยังเด็กสาว
“มันจะไม่รุนแรงเกินไปหน่อยเหรอคะ ที่ถอนสิทธิการเข้าเรียนของพวกเรา เพียงแค่พวกเราแพ้น่ะ!!?”
“ช-ใช่แล้วครับ เธอพูดถูก!!”
เมื่อเด็กสาวได้เริ่มพูดขึ้น ก็มีเสียงโห่ร้องมากมายจากที่ต่างๆ รอบหอประชุม
“อะไรจะเกิดขึ้นกับคนที่แพ้น่ะ!?” “อย่ามาพูดบ้าๆ นะ!!” “ใครจะรับผิดชอบกับเรื่องพวกนี้น่ะ!?”
แต่ว่า---
[....นี่เป็นแค่การทดสอบคัดเลือกที่มีอยู่ทั่วไป ผู้ที่อยู่รอดผลักไสผู้ที่พ่ายแพ้ เป็นกฎที่ต้องยึดถือตามหลักการแข่งขันเพื่อเอาตัวรอด แม้ว่าเวลาและสถานที่จะแตกต่าง แต่นี่เป็นแค่สงครามทั่วไปเพื่อการเข้าเรียน]
ผู้อำนวยการไม่ได้ตกประหม่าต่อเสียงโห่ร้องแม้แต่น้อย เธอส่งสายตาอันเย็นเยียบและคำพูดอันเสียดแทงให้เหล่านักเรียนใหม่ต้องหยุดเสียงลง
(การแข่งขันเพื่อเอาตัวรอด งั้นเหรอ...)
เพื่อตัวของตัวเอง คุณต้องแย่งชิงเอาอนาคตจากคนที่คุณต้องเผชิญหน้า
แม้ว่าสิ่งเหล่านี้จะไม่ได้เกี่ยวพันถึงชีวิต แต่เมื่อคุณแพ้ หนทางก็ต้องปิดลงอยู่ดี สิ่งนี้ไม่ได้ผิดจากไปคำพูดของผู้อำนวยการแม้แต่น้อย
“ต-แต่ว่า ทำไมต้องเป็นการประลองล่ะ....!? พวกเราสอบแบบธรรมดาไม่ได้งั้นเหรอคะ....?”
หนึ่งในผู้ที่ไม่เห็นด้วย คุณอิมาริถามต่อผู้อำนวยการ
คุณอาจจะพูดได้ว่า นี่คือความเห็นของคนส่วนใหญ่ในที่แห่งนี้ ผมเองก็เห็นด้วยกับความคิดของเธอ
[ในเมื่อวันที่พวกเธอจะต้องต่อสู้ จะต้องมาถึงอย่างแน่นอน ถ้าพวกเธอได้เข้าไปยังหน่วยรักษาความปลอดภัยขององค์กรดูน ในฐานะของ <<เอ็กซี๊ด>> แล้ว จะต้องมีช่วงเวลาที่เธอถูกส่งให้เข้าร่วมการต่อสู้ที่เกี่ยวพันถึงชีวิต และแน่นอนว่า เธอไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงมันได้เพียงเพราะเธอไม่ต้องการ --- หลังจากที่ฟังไปมากขนาดนี้แล้ว พวกเธอควรจะเข้าใจแล้วนะคะ]
“....หมายความว่า <<พิธีคัดเลือกนักศึกษา>> เป็นงานแรกที่วิทยาลัยมอบหมายให้เรางั้นเหรอครับ”
[ถูกต้องที่สุดค่ะ]
ผู้อวยการยิ้มให้กับความเห็นของผม
[ถ้าพวกคุณไม่เห็นด้วยกับแนวทางของวิทยาลัยของเราแล้ว พวกคุณสามารถที่จะออกไปจากหอประชุมนี้ได้ทุกเวลานะคะ เพียงแต่ว่าพวกเราจะตัดสินทันทีว่าพวกคุณสละสิทธิในการเข้าเรียนของวิทยาลัยโคเรียว]
บรรยากาศโดยรอบหยุดนิ่ง
แน่นอนว่า พวกเราซึ่งได้รับทราบเกี่ยวกับการสอบเข้าอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย แถมยังบอกให้พวกเราประลองกัน ก็คงไม่มีทางที่จะตอบรับด้วยการพยักหน้าแล้วตกลงทันทีแน่นอน
อีกประการหนึ่งคือ การประลองนี้ไม่มีการจำกัดในเรื่องอาวุธ ไม่เพียงแต่ว่าคุณจะต้องกังวลเรื่องอาการบาดเจ็บ แต่ยังรวมถึงเรื่องที่จะต้องทำให้คู่ต่อสู้บาดเจ็บอีกด้วย ซึ่งหากเกิดการผิดพลาดแม้แต่น้อย เรื่องคงจะไม่จบแค่เป็นแผลแน่ๆ เพราะฉะนั้นการตอบรับเรื่องนี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
แต่ทว่า—การบังคับให้พวกเราทำเรื่องนี้ โดยที่เข้าใจถึงความคิดของพวกเราดีอยู่แล้ว นั่นคงเรียกได้ว่าเหมือนกับเสียงกระซิบของปีศาจร้าย
[เอาล่ะ ก่อนที่เราจะเริ่มการประลอง มีข้อมูลสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่เกี่ยวกับ <<เปลวเพลิง>> ที่ดิฉันจะแจ้งให้ทราบไว้ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการประลอง <<เปลวเพลิง>> เป็นอาวุธที่ถูกทำให้ก่อรูปโดยใช้ <<วิญญาณ>> ผนวกกับความตั้งใจ --- และด้วยเหตุผลนั้น <<เปลวเพลิง>> จึงมีคุณสมบัติที่สามารถทำความเสียหายได้เพียง <<วิญญาณ>> เท่านั้น นั้นหมายความว่าพวกเธอสามารถที่จะลดทอนจิตต่อสู้ของฝ่ายตรงข้ามด้วยการโจมตีได้ และนั่นจะไม่ส่งผลในทางกายภาพ และคร่าชีวิตคู่ต่อสู้ไม่ได้อีกด้วย เพราะฉะนั้นแล้ว สิ่งนี้จึงเหมาะสมที่สุดในการเป็นอาวุธที่ใช้สยบคู่ต่อสู้]
จากคำพูดนี้ ทำให้ผมรู้สึกว่ามันได้ปัดเป่าเอาความสงสัยและสร้างความโล่งใจให้กับนักเรียนที่นี่
ผมสามารถรู้สึกได้จากความโกลาหลที่ลดลงไป
คนแล้วคนเล่า ที่เริ่มตัดสินใจได้
(เป็นปัญหาจริงๆ เลย....)
การตัดสินใจของผมนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่า ผมยอมรับในการทดสอบนี้หรือไม่ ไม่ใช่เรื่องการประลอง ความเจ็บปวด หรือการทำร้ายคนอื่น
แต่มันเป็นเรื่องที่ว่า ทันทีที่การประลองเริ่มต้นขึ้น ผมจะต้องโค่นคุณอิมาริลงให้ได้
เธอเป็นเพียงแค่คนๆ หนึ่งที่ผมพบเจอครั้งแรกในเช้านี้
พวกเราได้คุยกันเพียงแค่ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงดี
(แต่ว่าผม...)
“....ขอโทษนะครับ แต่ผมของถามผู้อำนวยการอย่างหนึ่งจะได้มั้ยคัรบ?”
[มีอะไรหรือคะ?]
“เกี่ยวกับคู่ของตัวเอง--- เป็นไปได้มั้ยถ้าเราอยากจะเปลี่ยนคู่ประลองน่ะครับ?”

แม้ว่าผมจะถามเธอด้วยความหวังเล็กๆ---
[...คุณจะขอให้ผู้ทดสอบให้คะแนนคุณด้วยวิชาภาษาไทยที่คุณถนัด เพียงเพราะว่าคุณทำวิชาคณิตศาสตร์ได้ไม่ดีงั้นเหรอคะ? คุณคิดว่าพวกเราจะอนุญาตงั้นเหรอคะ?]
“นั่นมัน....”
ด้วยคำพูดที่เชือดเฉือนกลับมา ผมจึงไม่สามารถที่จะพูดอะไรได้เลย
อาจจะมีใครบางคนถามำถามเดียวกันมาก่อนหน้านั้นแล้วก็เป็นได้
“โทรุ ไม่เป็นไรหรอก ขอรับเอาไว้แค่ความรู้สึกก็พอแล้วล่ะ”
คุณอิมาริยิ้มให้แบบเศร้าๆ
“ชิ...!”
(มันไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องรับการทดสอบบ้าๆ นี่เลยงั้นเหรอ...!?)
แม้ว่าผมจะกัดกรามแน่นอย่างไร ผมก็ไม่สามารถที่จะหลีกหนีไปจากการทดสอบนี้ได้
ผมอยากที่จะหนีไปด้วยซ้ำด้วยการพูดอย่างง่ายๆ ว่าผมรับมือกับสิ่งนี้ไม่ได้
แต่ผมทำแบบนั้นไม่ได้
ผมมายังที่สถาบันโคเรียวด้วยความปรารถนาที่เกินกว่าสามัญสำนึกปกติ
เพื่อรับเอา <<พลัง>> ในการเติมเต็มความปรารถนาของตัวเอง
(บ้าเอ้ย...!)
กระนั้นแล้ว ผมก็ยังลังเลใจ
ผมไม่ควรที่จะต้องมาคิดเรื่องแบบนี้
แต่เพื่อการนั้นแล้ว ผมจำเป็นต้องเอาชนะคุณอิมาริ
“คุณอิมาริ...”
ผมเรียกชื่อของเธอ
แต่ทว่า
ผมไม่สามารถที่จะเอ่ยคำต่อไปออกมาได้
....เพราะว่าอะไรกันนะ?
ผมไม่รู้เลย
ผมคิดอะไรไม่ออก
ในขณะที่ผมกำลังวุ่นวายอยู่ในความคิด ก่อนที่ผมจะได้เอ่ยอะไรออกไป---
ผู้อำนวยการก็เริ่มดำเนินการต่ออย่างไร้ความเมตตา
[เริ่มได้ El Seed(เมล็ดพันธ์แห่งพระผู้เป็นเจ้า)!! จงโอบอุ้มอนาคตของตัวเองเอาไว้ด้วยสองมือของตัวเอง!!]

0 comments: