Friday, December 20, 2013


[LN] Absolute Duo - ศึกศาสตรา วิญญาณแฝด Chapter 1 (4)

Part 4

คำคมจากปากของอาจารย์ใหญ่ดังขึ้น ในจังหวะเดียวกับเสียงระฆังที่ดังขึ้นไปทั่ว ไม่ใช่แค่หอประชุม แต่ดังไปทั่วทั้งโรงเรียน
เมื่อเวลากลับมาเดินอีกครั้ง---
“ว๊ากกกกก!”
เสียงโห่ร้องดังขึ้นจากใครสักคนหนึ่งกลายมาเป็นเสมือนสัญญาณเริ่มต้น
หลังจากที่ได้ตระหนักถึงสถานการณ์ในขณะนี้แล้ว คนกลุ่มหนึ่งกรีดร้องพลางวิ่งหนีไปยังทางออก
ในขณะที่บางคนยังคงยืนอยู่ตรงนั้นเพราะยังไม่เข้าใจในสถานการณ์
และอีกกลุ่มหนึ่งที่มีความตั้งใจที่จะประลองและยอมรับการทดสอบ ได้แผดเสียง <<วจนะจำเพาะ>> และ <<เปลวเพลิง>> ก็ได้ปะทุออกมา
ดาบ หอก ธนู และศาสตรามากมายได้ปรากฏขึ้นแก่สายตาของผม พวกเขาถือมันขึ้นมาและกวัดแกว่งใส่ศัตรูเบื้องหน้า
เสียงของการต่อสู้และอาวุธประทะกันดังกังวานไปทั่วทั้งหอประชุม
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ มีเพียงพวกเราที่ยังคงยืนนิ่งและสบตากัน—
และผู้ที่เอ่ยขึ้นมาก่อนก็คือคุณอิมาริ
“ฉันไม่ค่อยชอบประโยคที่ว่า “มันเป็นเรื่องช่วยไม่ได้” แต่ มันมีบางอย่างที่ฉันจะต้องทำให้สำเร็จ และเพื่อไปถึงเป้าหมายนั้น ฉันจะต้องเข้าเรียนที่วิทยาลัยนี้ ไม่ว่าจะต้องเสียอะไรไปก็ตาม เพราะงั้นนะ---“
คุณอิมาริส่งสายตาแหลมคมประสานมายังนัยต์ตาของผม และกู่ร้อง
“ฉันจะไม่ยอมล้มเลิกเด็ดขาด!”
เธอวางมือไว้บนหน้าอก <<รอยสลักแห่งดวงดาว>> ได้ปรากฏขึ้นจาก <<วจนะจำเพาะ>>
<<เปลวเพลิง>> นั้นส่องสว่างเป็นสีฟ้าอ่อนนั่นคือ <<วิญญาณ>> และ <<จิตใจ>> แห่งการต่อสู้ของคุณอิมาริ
อิมาริจับ <<เปลวเพลิง>> เอาไว้อย่างไม่ลังเล
<<เปลวเพลิง>> ได้ก่อรูปเป็นแท่งยาวและเริ่มส่องแสงสว่างอย่างแรงกล้าออกมา <<ดาบ>> ที่โค้งได้สัดส่วนอย่างงดงามก็ปรากฏอยู่ในมือของคุณอิมาริ
“โทรุ แสดง <<เปลวเพลิง>> ของนายออกมาด้วย….!”
“.........”
คุณอิมาริแสดงเจตนาของตัวเองออกมา แต่ผม....
“.....ไม่มีเวลามาโอ้เอ้หรอกนะ ถ้านายไม่อยากจะสู้แล้วละก็ ฉันจะจบมันเดี๋ยวนี้แหละ!! ย้ากกก!!”
ในขณะที่เธอปลุกใจตัวเองด้วยการส่งเสียงร้องออกมา คุณอิมาริก็กระโจนเข้าใส่ผม
(----อุ๊! เร็วจริง!!)
ด้วยความสามารถในการปะทุของพลังที่เพิ่มขึ้นจาก <<Luciful>> ระยะทางไม่กี่เมตรก็สามารถย่นระยะได้ภายในพริบตา
“ชิ!”
โทรุถอยเท้าอย่างฉับพลันเพื่อหลบ <<ดาบ>> ที่กวัดแกว่งลงมา ดาบนั้นได้ถากเสื้อของเขาแล้วฟันลงกับพื้น
ร่องรอยจากการถูกฟันที่ทิ้งไว้บนพื้นนั้น ไม่ควรเกิดขึ้นจากพละกำลังของเด็กสาวได้เลย
(นี่คือ <<ผู้เหนือมนุษย์>> งั้นเหรอ .......! ที่ว่าได้ก้าวข้ามขอบเขตของความเป็นมนุษย์ไม่ใช่แค่ดีแต่พูดสินะ)
“นายเคลื่อนไหวได้ไม่เลวเลย ไปทำอะไรมางั้นเหรอ?”
“ก็แค่วิชาป้องกันตัวนิดหน่อยนะ”
“งั้นเหรอ ฉันเองก็เรียนเคนโด้มานะ
“ถึงว่า ฟันได้คมขนาดนั้น”
ผมส่งยิ้มกลับไปหาคุณอิมาริที่กำลังตั้งท่าดาบอยู่
“หุๆ ขอบใจนะ ถึงจะฉันพูดอวดดีไปหน่อย แต่ว่า...........คราวหน้าไม่พลาดแน่”
ดวงตาของคุณอิมาริกลับมาจริงจังอีกครั้งหนึ่ง
“โทรุ ฉันจะขอพูดอีกครั้งนึงนะ เอา <<เปลวเพลิง>> ของนายออกมาซะ....!”
“คุณอิมาริ.....”
ผมยังคงลังเลอยู่
แต่ทว่า ผมรู้ว่ามันไม่มีทางเลือกอื่นที่ทำได้ ---- และทางเดียวที่เหลืออยู่ก็คือการยอมรับการทดสอบครั้งนี้
แต่ถึงจะก่อร่างเอาอาวุธออกมา แต่ผมจะสู้ยังไงดี
เพราะ <<เปลวเพลิง>> ของผม คือ <<โล่>> --- อุปกรณ์สำหรับการป้องกันตัว
แทนที่จะมีไว้สำหรับการเอาชนะ แต่มันเป็นเพียงการปกป้อง เพื่อไม่แพ้
นั่นคือสาเหตุที่ว่า การจะเอาชนะคุณอิมาริได้นั้น ผมจะต้องโจมตีโดยตรง --- ผมจึงไม่มีทางเลือกนอกจากการเหวี่ยงหมัดเท่านั้น แต่ถ้าทำอย่างนั้นแล้ว โอกาสที่จะบาดเจ็บก็จะมีมากขึ้น
 (ผมพยายามที่จะหลีกเลี่ยงโอกาสแบบนั้น เพราะถ้าเป็นแบบนั้นแล้ว....)
“ผมไม่เป็นไรหรอก”
“เอะ?”
“ผมบอกว่าผมจะไม่ใช้ <<เปลวเพลิง>> น่ะ”
“---------อุ๊! นายหมายความว่ายังไงกันแน่ โทรุ!?”
“ถ้าผมจำเป็นที่จะต้องใช้มัน ผมจะเรียกมันออกมาเอง แต่นั่นหมายความว่าผมยังไม่ต้องใช้มันยังไงล่ะ”
“อ-อย่ามาพูดบ้าๆ นะ!! ถึงจะเห็นฉันเป็นแบบนี้ แต่ฉันก็เป็นนักกีฬาชั้นนำของการแข่งขันเคนโด้นะ!!”
“..............ผมไม่ได้พูดบ้าๆ แต่ผมพูดจริงๆ”
“-----อุ๊! งั้นอย่าเสียใจทีหลังล่ะ!! ย๊ากกกก!!”
คุณอิมาริกู่ร้องอีกครั้งหนึ่ง แล้วย่ำเท้าเข้ามา
แม้ว่าผมจะสามารถหลบดาบของเธอได้ แต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้จังหวะชะงักไปแต่อย่างใด
หลังจากดาบแรกผ่านไป ดาบที่สอง และสามก็ตามมาในทันที----
แต่ผมก็ยังสามารถที่จะหลบดาบทั้งหมดนั้นได้
“ชิ.....! ท่าทางนายจะหลบเก่งไม่เบาเลยนะ…!”
แสดงความห่างชั้นกันของฝีมือ เพื่อทำให้เธอยอมแพ้ไปเอง
นั่นคือวิธีการที่ผมเลือกเอาไว้
ถึงการที่ <<Luciful>> ที่เปลี่ยนมนุษย์ให้กลายเป็น <<ผู้เหนือมนุษย์>>
ถ้านั่นทำให้ความสามารถทางกายภาพของคุณอิมาริเพิ่มขึ้น ผมเองก็ต้องได้รับผลเช่นกัน
ด้วยสิ่งนี้แล้ว ผมสามารถแสดงให้เห็นถึงความสามารถ ประสบการณ์ และทักษะที่เพิ่มพูนขึ้นมาได้
ทักษะการใช้ดาบของคุณอิมารินั้นเฉียบคม
แต่ทว่านั่นไม่ใช่สิ่งที่อยู่นอกเหนือไปจากสามัญสำนึก
---แต่ผมนั่นต่างออกไป
ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ทุกๆ ก้าวเดินของผมเป็นไปเพื่อความแข็งแกร่ง
เส้นทางที่เราเลือกเดินนั้นต่างกัน----และนั่นส่งผลให้เห็นถึงความเหนือล้ำอย่างที่สุดในความสามารถ
“ท-ทำไมกัน...........!”
<<ดาบ>> นั้นยังคงผ่าลมผ่าอากาศไปอย่างสูญเปล่านับครั้งไม่ถ้วน
ไม่ว่าจะฮึกเหิมแค่ไหนก็ตาม สิ่งนั้นไม่อาจถมความต่างชั้นของฝีมือได้
ในตอนนั้นเอง คุณอิมาริก็คงสังเกตเห็นได้เช่นกัน และเริ่มที่จะปรากฏความร้อนรนในนัยน์ตาของเธอ
“ฉันจะแพ้ไม่ได้! ฉัน....ฉันมีสิ่งที่จะต้องไปให้ถึง....!”
เธอขบฟันแน่นและประกาศความแน่วแน่ของเธอที่จะไม่ยอมแพ้ ก่อนที่จะเหวี่ยง <<ดาบ>> ของเธอลงมา
ผมโยกหลบการโจมตีด้วยระยะห่างเท่าความหนาของแผ่นกระดาษ และคว้าเอาข้อมือของคุณอิมาริเอาไว้



“.......คุณน่าจะเข้าใจได้แล้วนะ คุณอิมาริ คุณเอาชนะผมไม่ได้หรอก ต่อให้สู้กันไปนานกว่านี้-----มันก็ไร้ประโยชน์”
“อึก!”
“เพราะฉะนั้นแล้ว ช่วยยอมแพ้ด้วยเถอะนะครับ ผมอยากให้คุณอิมาริยอมรับความพ่ายแพ้........ผมไม่ต้องการที่จะทำร้ายคุณ”
ไม่มีอะไรที่จะร้ายกาจไปกว่าคำพูดจากปากของผมอีกแล้ว
ผมกำลังบอกเธอให้ยอมรับในความต่างชั้นของฝีมือแล้วยอมแพ้ไป
และในวินาทีที่เธอยอมรับ คุณอิมาริจะต้องจากวิทยาลัยโคเรียวไปในทันที
เพื่อที่จะไม่ทำให้คุณอิมาริต้องบาดเจ็บ ผมจะต้องทำร้ายหัวใจของเธอแล้วรวมถึงตัวผมเองด้วย
เช่นเดียวกันกับคุณอิมาริ ผมเองก็มีเป้าหมายที่จะต้องไปให้ถึง
ผมมีความแน่วแน่ที่จะทำเป้าหมายให้สำเร็จให้ได้
แต่การจะให้เหวี่ยงกำปั้นต่อยผู้หญิงนั้น-----ผมจะต้องเลี่ยงที่จะทำร้ายคุณอิมาริ
นั่นเป็นสาเหตุที่ผมเลือกที่จะทำลายความตั้งใจของคุณอิมาริแทน และทำให้หัวใจของเธอแตกหักไปในที่สุด แต่ว่า----
“อย่ามาล้อเล่นนะ! ฉันจะไม่มีวันยอมแพ้แบบนี้แน่ ไม่มีวัน.....!”
คุณอิมาริอาละวาด
“ยิ่งไปกว่านั้น ฉันไม่มีทางที่จะยกธงขาวทั้งๆ ที่รู้ว่าคู่ต่อสู้ยังไม่เอาจริงเด็ดขาด!!”
“คุณอิมาริ.......”
เมื่อผมเรียกชื่อของเธอ คุณอิมาริผ่อนคลายสีหน้าลงแล้วเป่าปากดัง *ฟู่* แล้วส่งรอยยิ้มมาให้
“ถ้านายอยากให้ฉันยอมแพ้ละก็นะ ด้วยต่อสู้อย่างสมศักดิ์ศรีด้วยนะ โทรุ นั้นเป็นมารยาทในการประลอง”
และด้วยใบหน้า รอยยิ้ม และดวงตาคู่นั้นที่เต็มไปด้วยความตั้งใจอันแน่วแน่ ผมรู้สึกเหมือนกับถูกชักจูงไป
ด้วยความสงบนิ่งนั้น เธอไม่เคยยอมแพ้ให้กับความตั้งใจของตัวเอง
ผมนี่มันบ้าที่สุด
ผมไม่มีทางที่จะทำลายหัวใจของคู่ต่อสู้ที่เต็มไปด้วยความแน่วแน่และรอยยิ้มอันนั้นได้เลย
---ถ้างั้นแล้วจะทำยังไงดีล่ะ?
ก็เห็นๆ กันอยู่แล้วนี่นา
มีเพียงทักษะเดียวที่จะตอบรับกับหัวใจอันเต็มไปด้วยความแน่วแน่อันนั้นได้
“ผมขอโทษด้วยนะครับ”
ผมกล่าวคำขอโทษและปล่อยมือของคุณอิมาริไปแล้วถอยหลังไปสองสามก้าวเพื่อเว้นระยะห่าง
ด้วยความแตกต่างกันของฝีมือ ผมไม่จำเป็นที่จะต้องใช้มัน
แต่ด้วยความปรารถนาของคุณอิมาริแล้ว ผมจะต้องลงมืออย่างเต็มที่
ผมจะต้องทำตามความปรารถนาอันนั้น
ผมจึงได้กู่ร้อง --- <<วจีจำเพาะ>>
“ <<เปลวเพลิง>>!!”
ไฟได้ลุกโชนออกมาจากแผ่นอกของผม---
สิ่งนั้นได้ปรากฏขึ้นในมือของผมแล้วพันรอบแขนและเปล่งประกายแสงออกมา
“นั่นคือของโทรุ....”
ด้วยชื่อเรียกอย่าง <<Irregular (สิ่งที่ผิดเพี้ยน)>> และเป็น <<เปลวเพลิง>> รูปแบบป้องกันหนึ่งเดียวในโลก --- เธอจับจ้อง <<โล่>> ด้วยตาของเธอด้วยอาการประหลาดใจอย่างเก็บไว้ไม่อยู่
“ก็เป็นอย่างที่คุณเห็นนั่นแหละครับ ผมถึงได้ขอโทษ แต่เพื่อชัยชนะแล้ว ผมคงจะต้อง—ใช้มัน”

เพื่อที่จะแสดงให้คุณอิมาริเห็น ผมจึงกำหมัดแน่น
จากนั้นดึงกลับมาเพื่อตั้งท่าเตรียมพร้อม
“เข้ามาได้เลยครับ! ผมจะหยุด <<เปลวเพลิง>> ของคุณอิมาริ แล้วเอาชนะให้ได้!”
“ดูเหมือนว่านายจะเอาจริงแล้วสินะ.... แต่ว่า! ต่อให้เป็นความแตกต่างที่ชวนสิ้นหวังขนาดนั้น ฉันก็ไม่ยอมแพ้หรอกนะ!!”
คุณอิมาริตะโกนออกมาพร้อมตั้งท่าเตรียมพร้อมเช่นกัน
คงจะเป็นเรื่องยากมากที่จะหลบหลีกการโจมตี และดูเหมือนว่าเธอวางแผนที่จะท้าทายผมสำหรับการปะทะครั้งสุดท้ายด้วยการแทงอย่างเต็มกำลัง
“มันน่าเสียใจจริงๆ นะ.......ที่จริงแล้วฉันอยากจะคุยกับโทรุมากกว่านี้ แต่มันคงไม่มีเวลาอีกแล้ว ด้วยศักดิ์ศรีของนักดาบ ฉันจะใช้ <<ดาบ>> นี้แหละ---!”
“ผมก็จะใช้ <<โล่>> นี้แหละ---!”
ตอบสนองต่อคำพูดของผม คุณอิมาริตะโกนเข้ามาด้วยเสียงร้องที่เต็มไปด้วยพลังใจ
“ไฮย่าหหหหหหหหหห์!!”
ท่าแทงตรงมายังช่องว่าง ดาบนั้นตรงมายังจุดที่ผมอยู่
“โอ้วววววววววววววว!!”
ผมร้องด้วยเช่นกัน
แกร๊งงง.......! <<โล่>> ของผมหยุดใบดาบของคุณอิมาริ และ <<ดาบ>> นั้นได้กระดอนออกไปจากมือของเธอด้วยเพราะไม่สามารถทนต่อแรงปะทะนั้นได้
“เมื่อกี้---เป็นการโจมตีที่ไม่เลวนะ”
“การโจมตีถูกหยุดเอาไว้แบบนี้ ฉันคงทำเป็นเท่ไม่ได้หรอกนะ แต่ว่า --- ขอบคุณมากนะ”
คุณอิมาริส่งยิ้มเล็กๆ มาให้ จากนั้น---
“มันจบแล้วล่ะ”
ผมปล่อยหมัดตรงออกไป
พุ่งออกไปเหมือนลูกธนู ผมปลดปล่อยพลังที่สะสมเอาไว้
และสุดท้าย ผมก็ได้รับ --- สิทธิในการโจมตีครั้งสุดท้ายของการประลอง

0 comments: