Friday, November 29, 2013


[LN] Absolute Duo - ศึกศาสตรา วิญญาณแฝด Chapter 1 (1)

Chapter 1 『To this 《Shield》———』

Part 1

ในชั่วขณะที่เด็กสาวผมสีเงินได้ปรากฏตัวขึ้น เสียงทั้งหมดในห้องประชุมก็ได้เงียบหายไปเหมือนในช่วงเวลาที่คลื่นน้ำกำลังม้วนกลับ
เช่นเดียวกับผมเอง ก็ต้องกลั้นหายใจจนเสียงจุกในลำคอเมื่อเห็นเธอเข้า
คุณเองจะไม่มีทางลืมเธอได้เลย หากได้พบกับเธอสักครั้ง เด็กสาวที่ให้บรรยากาศเช่นนั้นยืนอยู่ที่ทางเข้าห้องประชุมของวิทยาลัยโคเรียว
ผมสีเงินของเธอยาวสลวยลงมาถึงสะโพก ผิวที่ขาวนวลและซีดราวกับหิมะแรกตก ดวงตาสีแดงดั่งทับทิม ลักษณะของเธอไม่ว่ามองจากมุมไหนก็เป็นชาวต่างชาติไม่ผิดแน่
(อย่างกับตุ๊กตากระเบื้องแหนะ)
นอกจากลักษณะภายนอกของเธอแล้ว สัมผัสที่รู้สึกได้ยังเหมือนกับว่าเธอเป็นแค่ภาพลวงตา ทำให้ผมต้องคิดแบบนั้น
แม้ว่าสายตาจำนวนมากจะจับจ้องมายังตัวเธอ แต่กลับไม่สามารถรู้สึกได้ถึงอารมณ์ใดๆ จากใบหน้าของเธอแม้แต่น้อย
ทุกๆ ฝีก้าวของเด็กสาวผมสีเงินนี้ ดึงดูดเอาความสนใจของผู้คน ---กริ๊ง... เธอยังคงเดินต่อไปพร้อมกับเสียงของกระดิ่งที่ดังขึ้น
ฉึบ....ฉึบ.... ในสถานการณ์ที่เงียบเสียจนเสียงฝีเท้าสามารถได้ยินไปทั่ว และทุกคนจับจ้องที่ตัวเธอ กิริยาของเธอ และพฤติกรรมของเธอ ทำให้ผมคลับคล้ายกับว่าเป็นฉากในหนังม้วนหนึ่ง เด็กสาวยังคงก้าวเดินต่อไปโดยไม่สนใจสายตานับไม่ถ้วนของผู้คนรอบข้างที่จับจ้องตัวเธอในทุกอิริยาบถ
เมื่อเธอเดินผ่านผมไปแล้วนั่งลงบนที่นั่งแถวที่สามข้างหน้าจากที่นั่งของผม เส้นด้ายแห่งความเงียบก็ขาดลง เสียงสนทนาดังอื้ออึงไปทั่ว ผสมปนเปกับเสียงถอนหายใจ
“เฮ้อ.... ฉันคิดว่านั่นแหละ ที่นายเรียกว่าสาวสวย....”
เด็กสาวในทรงผมหางม้าที่นั่งอยู่ข้างๆ ผมพูดพลางถอนหายใจออกมา
“......นี่นาย อย่างน้อยก็ช่วยตอบฉันหน่อยสิ”
ผมเงยหน้าขึ้นมองเด็กสาว เมื่อถูกเธอสะกิดด้วยนิ้วมือเข้าที่หัวไหล่
“เธอพูดกับผมเหรอ?”
“แล้วยังมีคนอื่นด้วยเหรอไงเล่า?”
เมื่อผมมองดูไปรอบๆ ก็เห็นได้ว่า ที่นั่งข้างๆ ทั้งด้านหน้าและด้านหลังยังคงว่างอยู่ แต่มีเด็กสาวคนหนึ่งที่กำลังอ่านแผ่นพับของโรงเรียนเยื้องไปทางด้านหลัง
“....ขอโทษนะครับ ผมไม่ได้สังเกตเลย”
เมื่อผมกล่าวคำขอโทษออกไป หญิงสาวก็ยิ้มให้
“คิก คิก ดูเหมือนว่าเธอจะเป็นคนที่พูดด้วยง่ายนะ”
“หืม?”
“นายเอาแต่ย่นคิ้วอยู่ตลอดเวลาเลย เพราะงั้น ฉันที่ต้องนั่งข้างๆ นายเลยอยากจะทำอะไรให้หายอึดอัดหน่อยน่ะ”
“อ่า.... ผมต้องขอโทษอีกครั้งนะครับ พอดีว่ากำลังคิดเรื่องอื่นอยู่น่ะครับ”
“แล้วนายก็จะบอกว่า เรื่องที่คิดอยู่ก็ไม่ได้สำคัญเท่ากับเรื่องสาวสวยจากต่างชาติด้วยงั้นสิ?”
“ฮ่ะๆ ก็คงจะอย่างนั้น”



ผมได้แต่ยิ้มเฝื่อนๆ ให้กับความเห็นของเธอ ในขณะที่เธอก็ยิ้มอย่างมีเลศนัย
“ฮ่าๆๆ ฉันเข้าใจน่า ถึงฉันจะเป็นผู้หญิง แต่ว่าเธอคนนั้นน่ะสวยมากๆ เลย เพราะงั้น มันเป็นเรื่องธรรมดาที่นายจะต้องมองเธอ... แต่ว่า ทำไมเธอถึงได้มาที่โรงเรียนแบบนี้นะ?”
โรงเรียนแบบนี้ --- ที่ว่าเด็กสาวทรงหางม้าคนนี้เอ่ยขึ้นมา
วิทยาลัยโคเรียว เป็นโรงเรียนที่ผมตั้งใจจะเข้ามา ซึ่งแตกต่างกับโรงเรียนมัธยมทั่วๆ ไป สถานที่นี้เป็นที่รู้จักในเรื่องการฝึกฝนเทคนิคพิเศษ
และเทคนิคพิเศษที่ว่าก็คือ --- เทคนิคการต่อสู้
และสำหรับประเทศที่มีความหลากหลายอย่างญี่ปุ่นนี้ ที่แห่งนี้คือสถานที่พิเศษมากๆ ซึ่งสอนเทคนิคการต่อสู้ที่ไม่ได้มีความจำเป็นในชีวิตประจำวันแม้แต่น้อยนิด
“เธอคงจะมีเหตุผลของเธอมั้งครับ”
เธอต้องข้ามน้ำข้ามทะเลมาเพื่อเรียนเทคนิคการต่อสู้ เพราะฉะนั้นแล้ว เด็กสาวผมสีเงินคนนี้คงจะมีเหตุผลส่วนตัวเป็นแน่
“.....แต่ก็อาจจะเป็นไปได้ที่เธอจะเติบโตที่ญี่ปุ่นมาตั้งแต่แรกด้วย”
“ฮ่าๆๆ ก็เป็นไปได้นะ... แต่ที่แน่ๆ คือเธอทั้งสวย ทั้งน่ารัก ให้ตายสิ น่าอิจฉาจังเลย”
“ผมเห็นด้วยนะครับ แต่ผมคิดว่าคุณเองก็สวยในแบบของตัวเองนะ”
“ฉันน่ะนะ? คิก คิก ขอบใจนะ... แต่เดี๋ยว.. ว่าอะไรนะ!? ท-ท-ทำไมอยู่ดีๆ ก็พูดเรื่องน่าอายแบบนั้นออกมาเล่า!?”
“ผมก็แค่พูดอย่างที่คิดเท่านั้นเองนะ....”
เด็กสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ ผม เธอมีสีผมอ่อนๆ มัดรวบขึ้น เป็นความประทับใจแรกในความสดใสร่าเริงของเธอ ใบหน้าของเธอทั้งสวยและน่ารัก แล้วยังแฝงไปด้วยบรรยากาศของเด็กสาวที่กำลังเบ่งบานเป็นหญิงสาว ผมคิดว่าเธอเป็นคนที่มีมนุษยสัมพันธ์ดี เพราะเธอเป็นคนเริ่มต้นบทสนทนาขึ้น และตัดสินจากที่เธอสามารถที่จะเลือกหัวข้อทั่วไปที่ไม่ทำให้รู้สึกแย่ได้ ผมคิดว่าเธอน่าจะเป็นที่นิยมในช่วงมัธยมต้นแน่ๆ
“ค-คนปกติน่ะ เค้าไม่พูดสิ่งที่ตัวเองคิดออกมาตรงๆ หรอกนะ….!!”
“งั้นเหรอ?”
“แน่นอนสิ----“
“....ขอโทษนะคะ แต่ว่าช่วยลดเสียงลงหน่อยได้มั้ย?”
เสียงโทนเรียบๆ ได้ดั้งขึ้นจากทางด้านหลังซึ่งเป็นของเด็กสาวที่อ่านแผ่นพับอยู่
“อ่า...ข-ขอโทษจริงๆ ค่ะ!”
“ขอโทษด้วยครับ ที่ส่งเสียงดัง”
“ไม่เป็นไรหรอก....ถ้าพวกเธอลดเสียงลงหน่อย ฉันก็จะไม่พูดอะไร”
เด็กสาวในทรงผมหางม้าและผมมองหน้ากัน หลังจากที่ขอโทษไปแล้ว
“อะแฮ่ม ย-ยังไงก็แล้วแต่.... ทีหลังอย่าพูดอะไรแบบนั้นอีกนะ กะทันหันแบบนี้ บางคนอาจจะเข้าใจผิดไปก็ได้....”
“ค-ครับ เข้าใจแล้ว”
ถึงผมจะพยักหน้าตอบรับ—
(ที่ว่าเข้าใจผิดนี่ เข้าใจผิดแบบไหนเนี่ย....?)
มีเครื่องหมาย “?” ผุดขึ้นมาในหัวของผม
เด็กสาวผมหางม้า เอามือวางไว้บนหน้าอกเพื่อสงบสติอารมณ์ จากนั้นเธอได้ถามผมอีกครั้งหนึ่งหลังจากถอนหายใจออกมา
“อืมม ถึงจะกลายเป็นเรื่องแปลกๆ ก็เถอะ แต่มาแนะนำตัวกันหน่อยนะ ฉันชื่อว่า นากาคุระ อิมาริ มาสนิทกันเอาไว้เถอะ”
“ผมชื่อโคโคโนเอะ โทรุ ยินดีที่ได้รู้จักครับ คุณนากาคุระ”
“เรียกอิมาริเถอะ โทรุคุง”
อิมาริขยิบตาแล้วส่งยิ้มให้ผม
หลังจากที่แนะนำตัวกันทั้งคู่แล้ว อิมาริก็เริ่มบทสนทนาใหม่ขึ้นมา ซึ่งนั้นจะไม่เป็นอย่างอื่นไปนอกเสียจากเรื่องที่คุยกันอย่างหนาหูในหอประชุมแห่งนี้
“นี่ โทรุคุง คิดยังไงตอนที่ทำพิธีชำระล้าง <<Luciful (แสงพิสุทธิ์)>> งั้นเหรอ?”
“ก็คิดว่าจะโดนเผาตายเอาน่ะสิครับ”
“ฟุ อา ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
อิมาริหัวเราะให้กับคำตอบของผม
“.....แค่ก”
ด้วยเสียงกระแอมจากเด็กสาวทางด้านหลัง อิมาริจึงรีบเอามือปิดปากตัวเองในทันที แล้วพยายามลดเสียงลง
“ฉันเองก็เหมือนกัน คิดว่าจะโดนเผาตายซะแล้ว”
อิมาริพยักหน้าพร้อมกับส่งเสียงคิกคัก
“ถึงจะมีคนมาอธิบายให้รู้ก่อนก็เถอะนะ แต่ฉันยังรู้สึกช๊อคไม่หายเลย แต่เพราะเรื่องนี้ พวกเรา.... ไม่สิ ทุกๆ คนที่นี่ อาจจะไม่ใช่มนุษย์ปกติอีกแล้วก็ได้นะ”
“อ่า ครับ.... ถึงผมจะบอกว่าใช่ แต่ผมก็ยังไม่รู้สึกว่าตัวเองเปลี่ยนแปลงไปมากขนาดนั้นนะ”
“นายหมายถึงกลายเป็น  <<Exceed (ผู้เหนือมนุษย์)>> ….?”
“ครับ....”

0 comments: